นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโรรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดกรณีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก)จะตัดสินคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปีพ.ศ.2505 ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งเป็นการภายในจากศาลโลกแล้วว่าศาลฯ จะพิจารณาตัดสินคดีดังกล่าวในวันที่ 11 พ.ย.นี้ โดยจะมีการแจ้งด้วยเอกสารอย่างเป็นทางการตามอีกครั้ง เมื่อถามว่าแต่ทางกระทรวงได้ให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่าศาลโลกอาจเลื่อนการตัดสินคดีไปเป็นเดือน ก.พ.2557 คณะดำเนินด้านกฎหมายต่อสู้คดีของไทย จะใช้ 4 ยุทธศาสตร์ ในการชี้แจงต่อศาลโลกในวันที่ 17 เมษายนนี้ ประกอบด้วย
1. พยายามชี้ให้ศาลโลกเห็นว่า
ศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณา และกัมพูชาไม่มีอำนาจฟ้อง
2. กัมพูชาไม่สิทธิยื่นศาลเพื่อขอตีความคำตัดสินคดีเดิมในรูปแบบการอุทธรณ์ที่
ซ่อนมาในรูปของคำขอตีความ ซึ่งขัดต่อธรรมนูญของศาลโลกและขัดต่อแนวคำพิพากษาเดิม
ในคดีปี 2505
3. ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกครบถ้วน
และไทยและกัมพูชา ไม่มีข้อพิพาทเรื่องการตีความคำพิพากษา
4. คำตัดสินเมื่อปี
2505 ศาลได้กล่าวถึงอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหาร
โดยไม่ได้ระบุถึงเส้นเขตแดน ดังนั้น พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร
ที่กัมพูชาเรียกร้องในปัจจุบัน ไม่ใช่บริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร
ผลที่คาดการไว้ คือ
1.ศาลตัดสินว่าไม่มีอำนาจ หรือ ไม่มีเหตุตีความ
2.ศาลอาจจะตัดสินว่า ขอบเขตเป็นแบบของ กัมพูชา คือ 1:200000
3.ขอบเขตเป็นไปตามมติของไทยในปี 2505
4.ตัดสินออกมาเป็นกลาง แต่อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับคำตัดสินของศาลโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น